หลายคนอาจรู้จักกับ ‘มาร์ค ลี’ มาอยู่แล้ว หรืออาจจะเคยเห็นหน้าเขามาก่อน เพราะหนุ่มอายุย่างก้าวเข้า 25 คนนี้ มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงมานานกว่าเกือบ 10 ปี 'มาร์ค ลี' มีประสบการณ์ในหลากหลายบทบาทอย่างน่าประทับใจ วันนี้ Mint จะพาทุกคนไปส่องประวัติหนุ่ม ‘มาร์ค ลี’ กับ 5 บทบาทที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้

1. รู้จัก ‘มาร์ค ลี’ ในบทบาทไอดอล

ย้อนกลับไปยังอดีต หลายคนอาจรู้จัก ‘มาร์ค ลี’ จากการเป็นหนึ่งในสมาชิกของ NCT ในยูนิตต่าง ๆ ซึ่งก่อนที่เขาจะเดบิวต์ ‘มาร์ค ลี’ ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มเทรนนี SM Rookies ซึ่งเขาก็เฉิดฉายและได้รับคำชมหลังจากเปิดตัวไม่นาน โดย ‘มาร์ค ลี’ เทรนเป็นเด็กฝึกถึง 4 ปี ก่อนที่จะเดบิวต์ครั้งแรกในฐานะ NCT U ‘7th Sense’ ในตำแหน่งแรปเปอร์ หลังจากนั้น ในปี 2016 เขาจะเปิดตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการกับ NCT127 ยูนิตถาวรของจักรวาล NCT โดย NCT127 มาในคอนเซ็ปต์ฮิปฮอปที่แปลกใหม่ พร้อมกับดนตรีประหลาดหูแต่ฟังแล้วหยุดไม่ได้ และยังไม่จบเพียงเท่านั้น ในปีเดียวกันนั้นเอง NCT Dream ยูนิตใหม่ของ NCT ได้เกิดขึ้นและหนึ่งในสมาชิกของวงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘มาร์ค ลี’ ซึ่งจักรวาลของวง Dream นั้นเต็มไปด้วยความเยาว์วัย สดใหม่ ชวนให้เราสนุกสนานและผ่อนคลายแตกต่างจากคอนเซ็ปต์ NCT 127 อย่างสิ้นเชิง แต่ 'มาร์ค ลี' แสดงให้เราเห็นว่าเขาสามารถนำเสนอคอนเซ็ปต์ที่ต่างกันสุดขั้วนี้ออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

2. ความรับผิดชอบในฐานะ ‘ลีดเดอร์’

เมื่อพูดถึงการเดบิวต์ในฐานะ NCT Dream แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่มาร์คแสดงให้เราเห็นคือการนำเสนอภาพลักษณ์สมวัยไปกับเพลง Chewing Gum เพลงเดบิวต์ที่มาในภาพลักษณ์รักแรก กับการเต้นพร้อม HoverBoard บนสเตจ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ ‘มาร์ค ลี’ มีบทบาทกับวง NCT Dream คือการเป็นลีดเดอร์ของวง กับหน้าที่ดูแลเพื่อนร่วมวงอีกทั้ง 6 คน ‘แจมิน-เจโน่-จีซอง-แฮชาน-เหรินจวิ้น-เฉินเล่อ’

มาร์คในฐานะลีดเดอร์ของวง ที่บางครั้งก็เหมือนกลายเป็นน้องเล็ก (เพราะเมมเบอร์สนิทกันมากจนทำตัวเหมือนเป็นเพื่อนกัน) ดำเนินไปได้อย่างดีจากการบาลานซ์ความตึงเครียดและความผ่อนคลาย ทำให้ทีมเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ มาร์คในฐานะลีดเดอร์มักคอยนัดประชุมระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต แต่ในขณะเดียวกันก็คอยดูแลความเป็นอยู่ของ 'เอกิ' (แปลว่า เด็ก ในภาษาเกาหลี) ทั้ง 6 คน ที่สำคัญการเป็นหัวหน้าที่ดีคือการมองเห็นความสำคัญในตัวคนอื่น และ ‘มาร์ค ลี’ แสดงออกสิ่งนั้นผ่านการขอบคุณเมมเบอร์ในวงเสมอที่ได้รางวัล (รวมถึงแฟน ๆ ด้วย)

แม้ว่าช่วงหนึ่ง SM Ent. ได้มีการประกาศให้ ‘มาร์ค ลี’ จบการศึกษาออกจาก NCT Dream เพราะอายุถึง 20 แล้ว จนทำให้อัลบั้ม We Go Up เป็นอัลบั้มสุดท้ายของเขากับ NCT Dream แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ และตัวเมมเบอร์เองที่รักในความเป็น ‘7DREAM’ (ดรีมทั้ง 7 คน) ในที่สุด SM Ent. ออกมาประกาศยกเลิกระบบ Graduation ในปี 2020 และทำให้มาร์คได้กลับเข้ามาใน NCT Dream อีกครั้งอย่างสวยงาม

3. มุม ‘พิธีกร’ ของหนุ่มสัญชาติแคนาดา เชื้อสายเกาหลี

หากจะพูดถึงมุมมองของมาร์คในพาร์ทของรายการทีวีเกาหลี ต้องพูดถึงการเป็นพิธีกรรายการเพลง Music Core! ออกอากาศทางช่อง MBC ร่วมกับไอดอลโด่งดังในขณะนั้นอย่าง ‘องซองอู-คังมีนา’ ในขณะนั้นมาร์คมีอายุเพียง 19 ปี ซึ่งการเป็น MC ในรายการเพลงเป็นเครื่องการันตีว่าเราจะเห็นหน้าของหนุ่มคนนี้ทุก ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเป็น MC เรามักจะได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของไอดอลหรือสเตจพิเศษต่าง ๆ เหล่าแฟน K-pop จึงมักจะภาวนาให้ศิลปินหน้าใหม่ที่ตัวเองซัพพอร์ตได้รับการคัดเลือกจากช่องสถานีให้ได้เป็น MC เพื่อให้ศิลปินที่ตนรักมีคนรู้จักมากขึ้น ซึ่ง ‘มาร์ค ลี’ คือผู้ถูกเลือกและเขาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง โชว์สกิลนำรายการดั่งมืออาชีพ

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจคือ มาร์คลีเติบโตที่แคนาดา ดังนั้นการดำเนินรายการในภาษาเกาหลีอาจไม่ใช่เรื่องราบรื่นทั้งหมด โดยเฉพาะการพูดคำทับศัพท์เกาหลีจากภาษาอังกฤษ ที่คนเกาหลีจะอ่านเป็นสำเนียงเกาหลี สำหรับเมมเบอร์ต่างชาติในวงการ K-pop สิ่งนี้อาจเป็นปัญหา แต่สำหรับมาร์ค เขาสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม

3. Polo Raph Lauren x Mark

ในช่วงปี 2022 ‘มาร์ค ลี’ ในบทบาทไอดอลกำลังไปได้สวย มาร์คเดินทางไปรอบโลกเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตอย่าง NEO CITY: - The Link กับเพื่อน ๆ NCT 127 และเริ่มต้นกับ THE DREAM SHOW2 - in A DREAM ทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ของ NCT Dream แต่ความปังของมาร์คไม่หยุดแค่ในวงการเพลง แต่ลามไปถึงเวลาการแฟชั่นด้วย หลัง Polo Raph Lauren ตัดสินใจแต่งตั้งให้ ‘มาร์ค ลี’ ขึ้นแท่น Brand Ambassador แบรนด์พรีเมี่ยมระดับโลกที่มีกลิ่นอายคลาสสิค ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ภาพลักษณ์ระหว่างการเป็นไอดอลของ ‘มาร์ค ลี’ อาจดูเข้าใจได้ยากตามคอนเซ็ปต์ของวง แต่ ‘มาร์ค ลี’ เมื่ออยู่กับ Polo Raph Lauren ได้นำเสนอภาพลักษณ์แบบภูมิฐาน แต่ผ่อนคลาย สดใสแต่ในขณะเดียวกันก็ดึงความเท่ออกมาให้หลงเสน่ห์ได้ไม่ยาก มาร์คนำเสนอ Polo Raph Lauren ได้อย่างน่าสนใจผ่านการขึ้นปกนิตยสารชื่อดังหลากหลายฉบับ และรวมไปถึงการเข้ารวม Fashion Event อย่างล่าสุดมาร์คได้เข้าร่วม Polo Ralph Lauren 2024 Spring “Only Polo : The Art of Escape” ก็เป็นที่พูดถึงอย่างมาก

View this post on Instagram

A post shared by Mark (@onyourm__ark)

View this post on Instagram

A post shared by Mark (@onyourm__ark)

5. ท้าทายตัวเองกับบทบาทใหม่ ‘ศิลปินเดี่ยว’

สิ่งหนึ่งที่ ‘มาร์ค ลี’ ไม่ทำคือการหยุดนิ่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มาร์คจะมอบความตื่นเต้นครั้งใหม่ให้กับแฟน ๆ อีกครั้งแต่มาในบทบาทศิลปินเดี่ยว ‘มาร์ค ลี’ ไม่เคยกลัวในการรังสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ให้เราได้เห็น เขาท้าทายตัวเองเสมออย่างเช่น การพาตัวเองเข้าไปแข่งขันรายการ High School Rapper Season 1 มาร์คพัฒนาความสามารถในการแร๊ปของตัวเองและลบคำสบประมาทว่าเป็นแค่ไอดอล แร็ปไม่ได้จริง จนผ่านเข้าไปสู่รอบไฟนอลก่อนจะปล่อยเพลงที่แต่งเองอย่าง ‘Drop’ ซึ่งงานนี้ได้สาว 'ซึลกิ' แห่งวง Red Velvet รวมฟีทเจอริ่งด้วย

แม้เจ้าตัวจะไม่สามารถคว้าชัยชนะจากรายการได้ แต่มาร์คก็ไม่หยุดแค่นั้น ในโปรเจกต์ SM Station: NCT Lab มาร์คได้ปล่อยเพลง ‘Child’ เพลงโซโล่อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ทั้งแต่งทำนองและเนื้อเพลงเอง มาร์คใส่จิตวิญญาณเข้าไปในเนื้อเพลงอย่างเข้มข้น เพื่อพูดถึงความกังวลที่มีต่อตัวเองซึ่งอยู่ลึกลงไปข้างใน

และในปีถัดมามาร์คก็พาเราไปสนุกกับเพลงสไตล์ร็อค ‘Golden Hour’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจากการที่เชฟ Gordon Ramsey วิจารณ์การทอดไข่ของเจ้าตัวในรายการวาไรตี้ ซึ่งงานนี้หนุ่มมาร์คก็ได้เขียนเนื้อเพลงไว้ว่า “I don't know how to make eggs, but that I do not stress” แถมยังมีท่อนที่พูดถึงเชฟกอร์ดอนด้วย สามารถไปลองฟังกันได้

จนในที่สุด มาถึงการเดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัวกับอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก ซึ่งได้ปล่อย ‘200’ เพลงสไตล์ร็อค พร้อมท่อนแรปที่เพิ่มความสนุกสนานในการฟังตามแบบฉบับเจ้าตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยแบบ ‘200’ Acoustic Live Clip เรียกน้ำย่อยแฟน ๆ มาก่อนหน้านี้ การทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยวของมาร์คคือการเปิดเผยตัวเองในความเป็น ‘อีมินฮยอง’ (ชื่อเกาหลีของมาร์ค ลี) มากขึ้นผ่านไอจี @r_e__m___ ไอจีที่เจ้าตัวใช้แชร์ภาพการทำงานเบื้องหลังในฐานะ แรปเปอร์ นักร้อง และโปรดิวเซอร์ มาร์คพาให้เราสนุกไปกับเขาในฐานะการเป็นศิลปินเดี่ยวผ่านความคิดสร้างสรรค์อย่างการดึงเอาการ์ตูนมาใช้ในวิธีการโปรโมต โดยใส่คาแรกเตอร์รวมถึงความชอบของตัวเองเข้าไปอย่างชัดเจน

MARK 200 COMICS OUT NOW!

【200】 ➫ 2024.05.16 6PM (KST)#MARK #마크 #200 #MARK_200 #NCT #NCT127 #NCTDREAM pic.twitter.com/NYyzOXhkT1
— NCT (@NCTsmtown) May 12, 2024

เมื่อมาถึงตรงนี้ 'มาร์ค ลี' โชว์ให้เราเห็นว่า เขาสามารถใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว และการได้เห็น 'มาร์ค ลี' ในมุมต่าง ๆ แบบนี้ ทำให้เรารู้สึกประทับใจกับมาร์ค ทั้งในฐานะไอดอลและในฐานะมนุษย์คนหนึ่งซึ่งผลักดันตัวเองตลอดเวลา เสมือนเครื่องยนตร์ที่ใช้แพสชั่นเป็นเชื้อเพลิงเพื่อเดินไปข้างหน้า